วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

รายชื่อสมาชิก

รายชื่อสมาชิก

นาย กฤษณ์  เหลืองเลิศไพบูลย์ ม5/5 เลขที่ 4






นาย ณัฐกิตต์  วงศ์อยู่   ม5/5 เลขที่ 8






นายภัทรพล บุญอนันต์  ม5/5 เลขที่ 9





นาย  กชกร  แซ่ห่าน  ม5/5 เลขที่ 18



นาย กิตติศักดิ์ พิกุลทอง ม5/5 เลขที่ 31


บทนำ

บทนำ


การเรียนรู้แบบโครงงาน
     โครงงาน จึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างผู้เรียนกับห้องเรียนและโลกภายนอกซึ่งผู้เรียนสามารถจะนำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ได้ในชีวิตจริงของผู้เรียนทั้งนี้เพราะว่าผู้เรียนต้องนำเอาความรู้ที่ได้จากชั้นเรียนมาบูรณาการเข้ากับกิจกรรมที่จะกระทำ เพื่อนำไปสู่ความรู้ใหม่ ๆ ด้วยการสร้างความหมาย การแก้ปัญหา และการค้นพบด้วยตนเอง



        การที่ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านโครงงานทำให้มองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างความคิดกับข้อเท็จจริงซึ่งจะถูกเชื่อมโยงเข้าเป็นเรื่องเดียวกันในลักษณะของความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงอันจะสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นได้อย่างหลากหลายสามารถบูรณาการความรู้มาช่วยกันทำโครงงาน เรียนรู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่น รู้จักการหาข้อมูล ความรู้ต่างๆด้วยตนเอง ฝึกทักษะการสื่อสาร รู้จักการ การคิด แก้ไขปัญหา


วิธีทำ


                                                    วิธีทำ


1.อันดับแรก เราก็นำกลีเซอรีนที่ซื้อมามาฉีกซองแล้วนำใส่ในหม้อตั้งไฟอ่อนๆ แล้วทำการละลายกลีเซอรีนให้กลายเป็นของเหลวใช้ไม้พายคนไปในทิศทางเดียวกัน

2.เมื่อกลีเซอรีนละลายเสร็จแล้ว อันดับแรกให้นำน้ำหอมผสมลงไปที่ละน้อย
และคนให้น้ำหอมกับกลีเซอรีนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน

3.จากนั้นนำน้ำผึ้งผสมลงไปเพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีกว่าเดิมและคนไปเรื่อยๆ

4.นำแครอทที่ซื้อมาจากตลาดนำไปหันเป็นแว่นๆชิ้นเล็กๆแล้วนำไปปั่นให้ได้เป็นน้ำแครอทสดจากนั้นแล้วใส่น้ำแครอทลงไปในหม้อ

5.เมื่อใส่น้ำแครอทเสร็จแล้วทำการปิดแก๊สนำลงจากเตาและคนอยู่เสนอกันไม่ให้สบู่แข็งตัวจากนั้นนำลงใส่แม่พิมพ์ทิ้งเวลาไว้ซักครู่รอจนสบู่แข็งตัวก็สามารถนำสบู่ไปใช้งานได้แล้ว





สารที่ใช้ทำสบู่

                                                         สารที่ใช้ทำสบู่






กลีเซอรีน(Glycerin) กลีเซอรีนเป็นสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตสบู่ ซึ่งผู้ผลิตเชิงอุตสาหกรรมจะแยกกลีเซอรีนที่เกิดจากการทำปฏิกริยาระหว่างไขมันหรือน้ำมันกับสารละลายด่าง ออกมาจากสบู่ และนำไปขายให้ผู้ผลิตเครื่องสำอางและผู้ผลิตยา ซึ่งกลีเซอรีนที่ได้จะมีมูลค่าสูงกว่าการนำไปใช้ผลิตสบู่ หรือเรียกได้ว่าสบู่เป็นเพียงประโยชน์รองทีได้จากการผลิตกลีเซอรีน แต่อย่างไรก็ตามสบู่กลีเซอรีนมีคุณสมบัติดีกว่าสบู่โซเดียมที่ผลิตและจำหน่ายทั่วไปอย่างแน่นอน

น้ำผึ้ง (อังกฤษ: Honey) เป็นอาหารหวานที่ผึ้งผลิตโดยใช้น้ำต้อยจากดอกไม้ น้ำผึ้งมักหมายถึงชนิดที่ผลิตโดยผึ้งน้ำหวานในสายพันธุ์ Apisเนื่องจาก เป็นผึงเก็บน้ำหวานให้คุณภาพสูง และสามารถเลี้ยงระบบกล่องได้ น้ำผึ้งมีประวัติการบริโภคของมนุษย์มายาวนาน และถูกใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิด น้ำผึ้งยังมีบทบาทในศาสนาและสัญลักษณ์นิยม รสชาติของน้ำผึ้งแตกต่างกันตามน้ำต้อยที่มา และมีน้ำผึ้งหลายชนิดและเกรดที่สามารถหาได้ นอกจากนี้ ยังมีภูมิปัญญาที่ใช้น้ำผึ้งในการรักษาอาการเจ็บป่วย

น้ำหอม คือ สารละลายหอมระเหยทำจากน้ำมันกับแอลกอฮอล์ มีกลิ่นที่สกัดมาจากดอกไม้ในธรรมชาติหรือกลิ่นที่สังเคราะห์ขึ้นมาผสมอยู่ ใช้ทาหรือพ่นตามเสื้อผ้าหรือร่างกาย น้ำหอมจะระเหยออกมาพร้อมกับส่งกลิ่นหอมชวนดมออกมาด้วย มีหลายกลิ่น บางกลิ่นเกิดจากการนำกลิ่นดอกไม้หลายชนิดมาผสมกัน มีการผลิตบรรจุขวดขายหลายยี่ห้อ อาทิเช่น CK, DKNY, LACOSTE, Ralph Lauren ฯลฯ ส่วนน้ำหอมปรับอากาศในรถยนต์ อาทิเช่น BALDINY

ความรู้ทั่วไปของแครอท



                            ความรู้ทั่วไปของแครอท

แครอท(อังกฤษ: Carrot) เป็นพืชกินหัวชนิดหนึ่ง มีลักษณะยาว หัวแคร์รอตมีหลายสี เช่น เหลือง ม่วง ส้ม แต่ที่นิยมรับประทานในปัจจุบันคือสีส้ม เป็นพืชแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียกลาง มีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กเท่าแท่งดินสอ หรือที่เรียกว่าเบบี้แคร์รอต (อังกฤษ: Baby Carrot) ไปจนถึง ขนาดใหญ่มีประโยชน์ ดังนี้
 1. บำรุงสายตา
          เพราะในแครอทอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน หนึ่งในวิตามินที่ร่างกายต้องการอีกทั้งมีประโยชน์ที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตาของเราด้วย โดยเฉพาะเนื้อเยื่อชั้นในของดวงตา หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า เรติน่า ซึ่งการที่คุณรับประทานแครอทบ่อย ๆ ยังช่วยถนอมดวงตาให้สามารถมองเห็นได้อย่างปกติไปอีกนานเท่านานเลยเชียวล่ะ
 2. ช่วยป้องกันมะเร็ง
          เป็นที่รู้กันดีว่าแครอทนั้นมีประสิทธิภาพในการช่วยป้องกันโรคมะเร็งโดยเฉพาะการก่อตัวของมะเร็งปอด ทั้งนี้เป็นเพราะในแครอทเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง ฟาลคารินอล ซึ่งมีฤทธิ์ต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี ฉะนั้น ควรใส่แครอทเป็นส่วนผสมในอาหารจากหลักของคุณด้วยนะ
 3. เพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบไหลเวียนของเลือด
          เนื่องจากผู้คนในปัจจุบันไม่ค่อยใส่ใจกับการทานอาหารสักเท่าไหร่ ทำให้เกิดโรคเส้นเลือดอุดตันได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่ชอบทานของหวานและของทอด ทั้งนี้สารในแครอทจะเข้าไปกำจัดไขมันที่เกาะสะสมอยู่ในเส้นเลือด ซึ่งช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
4. รักษาระดับน้ำตาลในเส้นเลือด
          ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงอายุเท่าไหร่และมีรูปร่างแบบใด ก็มีสิทธิ์ที่จะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้เหมือนกัน ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานมากเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ เหล่านั้นก็ควรหมั่นทานแครอทอยู่เป็นประจำ เนื่องจากในแครอทมีสารแคโรทีนอยด์ ซึ่งสารตัวนี้จะเข้าไปช่วยรักษาสมดุลระดับน้ำตาลในเส้นเลือดของคุณนั่นเอง

5. ปรับปรุงระบบย่อยอาหาร
Text Box: 5          สำหรับคนที่อยากจะมีหุ่นดี ๆ ฟิต แอนด์เฟิร์มหรือคนที่อยากจะลดน้ำหนักล่ะก็ การทานแครอทถือเป็นตัวช่วยที่ดีเลยเชียวล่ะ เพราะแครอทจะเข้าไปเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานให้กับระบบย่อยอาหาร ซึ่งช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น


สบู่แครอท คือ??

สบู่แคทรอท คงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ ทั้งสบู่แครอทไทย และสบู่แคทรอท นำเข้า

จากประเทศฟิลิปปินส์ โดยประโยชน์ของ เจ้า สบู่แครอท นั่น ก็คือ การทำความสะอาดใบหน้า

ได้อย่างสะอาดหมดจด เพื่อการป้องกันสิว หรือปัญหาสิว ลดปัญหาฝ้า ได้อย่างธรรมชาติ

หากใช้เป็นประจำทุกวัน เห็นผลได้ภายใน 7 วันโดย สรรพคุณที่บอกกันมานั้น เกิดขึ้นได้จริง จากแครอท และส่วนผสมต่างๆที่มีอยู่ในสบู่นั่นล่ะคะ

ที่ผสมผสานกันอย่า'ลงตัว และทำออกมาเป็นสบู่ สีส้มสวยงาม ด้วยแครอท ที่มีประโยชน์อยู่แล้ว

เป็นแหล่งรวมของวิตามินที่ดีต่างผิวพรรณนานาชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินอี และวิตามินเอ

จึงช่วยให้ผิวพรรณนั้นกระจ่างใสได้อย่างไม่ยากเลย